เมนู

ค้อนเป็นต้น ตีมือเท้า ทำให้แขนโตขึ้น.
บทว่า อาทาสํ ได้แก่ไม่ควรใช้กระจกอย่างใดอย่างหนึ่ง.
บทว่า อญฺชนํ ได้แก่แต้มตาทำให้งามนั่นเอง.
บทว่า มาลา ได้แก่ดอกไม้ที่ร้อยบ้าง ดอกไม้ที่ไม่ได้ร้อยบ้าง.
บทว่า วิเลปนํ ได้แก่ทำการประเทืองผิวอย่างใดอย่างหนึ่ง.
ด้วยบทว่า มุขจุณฺณกํ มุขาเลปนํ คนทั้งหลายใส่ตะกอนดินเพื่อ
ต้องการกำจัดไฝและตุ่มเป็นต้นที่หน้า เมื่อโลหิตเดินไปด้วยตะกอนดินนั้น
ก็ใส่ตะกอนเมล็ดพันธุ์ผักกาด เมื่อตะกอนเมล็ดพันธุ์ผักกาดกัดส่วนที่เสีย
หมดแล้ว ก็ใส่ตะกอนงา เมื่อโลหิตหยุดด้วยตะกอนงานั้น เขาก็ใส่
ตะกอนขมิ้นนั้น เมื่อผิวพรรณผุดผาดด้วยตะกอนขมิ้นแล้ว ก็ผัดหน้าด้วย
แป้งผัดหน้า การกระทำทั้งหมดนั้น ไม่ควร ฉะนี้แล.

ในเรื่องประดับข้อมือเป็นต้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


คนบางพวกเอาสังข์และกระเบื้องเป็นต้นที่วิจิตรผูกที่มือเที่ยวไป.
เครื่องประดับมืออย่างนั้นก็ดี อย่างอื่นก็ดี ทั้งหมด ไม่ควร. คนอีกพวก
หนึ่ง ผูกปลายผมเที่ยวไป และเอาเส้นทอง และเถามุกดาเป็นต้น ล้อม
ปลายผมนั้น. ทั้งหมดนั้น ไม่ควร.
คนอีกพวกหนึ่ง ถือไม้เท้ายาว 4 ศอก หรือไม้เท้าอย่างอื่น มี
ด้ามประดับสวยงาม เที่ยวไป. กล้องยาที่วิจิตรด้วยรูปหญิงชายเป็นต้น
วงรอบเป็นอย่างดี คล้องไว้ข้างซ้าย.
แม้ดาบคมกริบ มีฝักล้อมด้วยรัตนะเป็นรูปดอกกรรณิการ์ ร่ม
อันวิจิตรด้วยฟันมังกรเป็นต้น เย็บด้วยด้าย 5 สี.

รองเท้าวงด้วยแววหางนกยูงเป็นต้น วิจิตรด้วยทองและเงินเป็นต้น.
บางพวกแสดงท้ายผมตกยาวประมาณศอกหนึ่ง กว้าง 4 องคุลี
ติดแผ่นกรอบหน้าที่หน้าผากเหมือนฟ้าแลบในกลีบเมฆ ปักปิ่น ใช้พัด
จามรและพัดวาลวีชนี. ทั้งหมดนั้น ไม่ควร.
ที่ชื่อว่า ติรัจฉานกถา เพราะเป็นถ้อยคำที่ขวางทางสวรรค์และ
ทางนิพพาน เพราะไม่ใช่ธรรมที่เป็นเหตุให้ออกไปจากทุกข์.
บรรดาติรัจฉานกถาเหล่านั้น เรื่องที่พูดปรารภถึงพระราชา โดย
นัยมีอาทิว่า พระเจ้ามหาสมมตราช พระเจ้ามันธาตุราช พระเจ้า
ธรรมาโศกราช
มีอานุภาพมากอย่างนี้ ชื่อว่า เรื่องพระราชา. ในเรื่อง
โจรเป็นต้น ก็นัยนี้.
ถ้อยคำที่เกี่ยวด้วยเรื่องครอบครัว โดยนัยเป็นต้นว่า บรรดาท่าน
เหล่านั้น พระราชาองค์โน้น มีรูปงามน่าชม ดังนี้แหละ ชื่อว่าเป็น
ติรัจฉานกถา. แต่เรื่องที่พูดอย่างนี้ว่า พระราชาพระนามแม้นั้น มี
อานุภาพมากอย่างนี้ สวรรคตแล้ว ดังนี้ ตั้งอยู่ในความเป็นกรรมฐาน.
แม้ในเรื่องโจร ถ้อยคำที่เกี่ยวด้วยเรื่องครอบครัว ว่าโอ กล้าจริง
ดังนี้ อิงอาศัยการกระทำของโจรเหล่านั้นว่า โจรชื่อมูลเทพ มีอานุภาพมาก
อย่างนี้ โจรชื่อเมฆมาล มีอานุภาพมากอย่างนี้ ดังนี้ ชื่อว่าติรัจฉานกถา.
แม้ในเรื่องการรบ มีเรื่องภารตยุทธ์เป็นต้น ถ้อยคำที่เกี่ยวกับ
ความพอใจในเรื่องทายว่า คนโน้นถูกคนโน้นฆ่าอย่างนี้ แทงอย่างนี้
นั่นแหละ ชื่อว่าติรัจฉานกถา. แต่เรื่องที่พูดอย่างนี้ว่า แม้คนชื่อเหล่านั้น
ก็ถึงความสิ้นไป ดังนี้ ย่อมเป็นกรรมฐานทุกเรื่องทีเดียว.
อนึ่ง ในเรื่องข้าวเป็นต้น การพูดเกี่ยวกับความพอใจในสิ่งที่ชอบ

ว่า เราเคี้ยว เราบริโภคข้าวมีสีสวย มีกลิ่นหอม มีรสอร่อย นิ่มนวล
ดังนี้ ไม่ควร. แต่การพูดทำให้มีประโยชน์ว่า เมื่อก่อนเราได้ถวายข้าว
น้ำ ผ้า ที่นอน ดอกไม้ ของหอม อันถึงพร้อมด้วยสีเป็นต้น แก่ท่าน
ผู้มีศีล เราได้บูชาพระเจดีย์อย่างนี้ ดังนี้ ย่อมควร.

ก็ในเรื่องญาติเป็นต้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


การพูดเกี่ยวกับความพอใจว่า ญาติของพวกเรากล้า สามารถ
ดังนี้ก็ดี ว่าเมื่อก่อนเราเที่ยวไปด้วยยานอันสวยงามอย่างนี้ ดังนี้ก็ดี ไม่
ควร. แต่ควรจะพูดให้มีประโยชน์ว่า ญาติของพวกเราแม้เหล่านั้น ก็
ตายไปแล้ว หรือว่า เมื่อก่อนเราได้ถวายรองเท้าอย่างนี้แก่พระสงฆ์ ดังนี้.

ก็ในเรื่องบ้านเป็นต้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


แม้พูดเรื่องบ้านที่เกี่ยวกับเรื่องว่า อยู่อาศัยดี อยู่อาศัยไม่ดี ข้าว
ปลาหาได้ง่าย และข้าวยากหมากแพงเป็นต้น หรือที่เกี่ยวกับความพอใจ
อย่างนี้ว่า ชาวบ้านโน้นกล้า สามารถ ดังนี้ ไม่ควร แต่พูดให้มีประโยชน์
ว่า ชาวบ้านโน้มมีศรัทธาเลื่อมใส หรือว่า ถึงความสิ้นไปเสื่อมไป ดังนี้
ควรอยู่. แม้ในเรื่องนิคม นคร ชนบท ก็นัยนี้แหละ.
แม้เรื่องหญิงที่เกี่ยวกับความพอใจอาศัยผิวพรรณและทรวดทรง
เป็นต้น ไม่ควร. แต่พูดอย่างนี้ว่า หญิงคนโน้นมีศรัทธาเลื่อมใส ถึง
ความสิ้นไปเสื่อมไป ดังนี้แหละ ควรอยู่.
แม้เรื่องคนกล้าที่เกี่ยวกับความพอใจว่า ทหารชื่อนันทมิตเป็นคน
กล้า ดังนี้ ไม่ควร. แต่พูดอย่างนี้ว่า ทหารเป็นผู้มีศรัทธา ถึงความสิ้นไป
ดังนี้แหละ ควรอยู่.